บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง
ระเบียบแถวกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน
เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์ 80/80 หาค่าดัชนีประสิทธิผล
ของเอกสารประกอบการเรียนเรื่องระเบียบแถวกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังการใช้เอกสารประกอบ
การเรียน เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการ
ใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่
ลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา
2553 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 จำนวน 22 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ เอกสารประกอบ
การเรียน เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 4 เล่ม ประกอบด้วย
1) ระเบียบแถว : ท่ามือเปล่า
2) ระเบียบแถว : ท่าไม้พลอง
3) ระเบียบแถว : สัญญาณ และ
4) การเดินสวนสนาม
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นข้อทดสอบปรนัย
แบบเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก ใช้ทดสอบก่อนและหลังเรียน
จำนวน 40 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นตามวิธีของโลเวทท์
เท่ากับ 0.80 แบบประเมินการฝึกปฏิบัติและพฤติกรรมการฝึก
กิจกรรม
มีค่าดัชนีความสอดคล้อง เท่ากับ 0.90 และแบบประเมิน
ความคิดเห็นของลูกเสือสามัญที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบการเรียน
เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบประเมินค่า 5 ระดับ
มีค่าดัชนีความสอดคล้อง เท่ากับ 0.78 การวิเคราะห์ข้อมูล
ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป การคำนวณหาประสิทธิภาพ
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องระเบียบแถวกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใช้การหาค่าร้อยละ
การหาค่าดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน ระเบียบแถว
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ใช้วิธี
ของกูดแมน และชไนเดอร์ โดยหาค่าอัตราส่วนและร้อยละ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและ
หลังการใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่องระเบียบแถว
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
โดยการหาค่าคะแนนเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบ
ความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างที่ขึ้นต่อกัน
โดยใช้การทดสอบค่าที (Dependent Samples t test)
และหาคะแนนเฉลี่ยความพึงพอใจที่มีต่อการใช้เอกสารประกอบ
การเรียน เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยใช้การหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน และแปลความหมายของข้อมูล เทียบกับ
เกณฑ์ปรากฏผล ดังนี้
1. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพเอกสารประกอบการเรียน
เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ 87.40/86.36
สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลของเอกสารประกอบการเรียน
เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าดัชนี 0.75
สูงกว่าเกณฑ์ดัชนีที่กำหนด
คือ 0.50 แสดงว่านักเรียน
มีความรู้เพิ่มขึ้นหลังจากการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน
เรื่องระเบียบแถวร้อยละ 75
3. คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ซึ่งใช้
เอกสารประกอบการเรียน เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
ลูกเสือสามัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
4. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน
เรื่องระเบียบแถว กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือสามัญ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด